Breaking News

5 ธันวาคม วันพระบรมราชสมภพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารเรือ นำกำลังพลทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมจัดกิจกรรม น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

วันนี้ (4 ธันวาคม 2566) กองทัพเรือได้จัดกิจกรรม เนื่องในวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 โดยได้จัดกิจกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ซึ่งในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุและสามเณร จำนวน 89 รูป พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ บริเวณลานทัศนาภิรมย์ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

โดยในเวลา 07.10 น. พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุและสามเณร จำนวน 89 รูป ณบริเวณลานทัศนาภิรมย์ หอประชุมกองทัพเรือ โดยนิมนต์พระสงฆ์จาก วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร จำนวน 30 รูป วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร จำนวน 20 รูป วัดชิโนรสารามวรวิหาร จำนวน 19 รูป วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร จำนวน 14 รูป และวัดนาคกลางวรวิหาร จำนวน 6 รูป โดยมี นางกีรตา พันธุ์เอี่ยม นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือพร้อมภริยา เข้าร่วมพิธี

ต่อมาในเวลา 08.10 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ และ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้นำคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือพร้อมภริยา ร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ โดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร โดยมีพระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ วรทสฺสี) เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์


จากนั้นในเวลา 09.10 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ


และเวลา 10.30 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือพร้อมภริยา รวมทั้งกำลังพลจิตอาสาในส่วนของกองทัพเรือ ร่วมกับประชาชนจากชุมชน เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ และนักเรียนจากสถานศึกษาบริเวณใกล้เคียง ได้เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ณ บริเวณโรงเรียนซางตาครู้สศึกษา และโรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ โดยทำความสะอาดและปรับภูมิทัศน์บริเวณโรงเรียนซางตาครู้สศึกษา และโรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์
อันเป็นการสนองพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการดำเนินการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน การสร้างความกินดีอยู่ดี และการเสียสละเพื่อส่วนรวมให้กับประชาชนในทุกด้าน รวมทั้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น พัฒนาพื้นที่ชุมชนกุฎีจีน การพัฒนาพื้นที่ชุมชนวัดกัลยาณ์ และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ได้มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และตั้งจุดบริการประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ บริการซ่อมรถจักรยานยนต์ บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า บริการตัดผม ตรวจรักษาโรคทั่วไป แสดงดนตรี แจกอาหารและน้ำดื่ม
ในส่วนของ หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ได้จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ ทัพเรือภาคที่ 1 ทัพเรือภาคที่ 2 ทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล และศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่ 22 จังหวัด ร่วมกันเก็บขยะชายหาด บริจาคโลหิต พร้อมทั้งประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์ตามวัด มัสยิด และเก็บขยะริมชายหาด และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ทำจิตอาสาพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ ขุดลอกคูคลอง กำจัดผักตบชวา และบริจาคโลหิตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ แผ่ไพศาลต่อพสกนิกรชาวไทย กองทัพเรือนับเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ทรงมีพระราชดำริให้กองทัพเรือสร้างเรือยนต์รักษาฝั่งไว้ใช้ได้เองโดยไม่ต้องจัดหาจากต่างประเทศ ซึ่งในปี พ.ศ.2510 กรมอู่ทหารเรือ สามารถสร้างเรือยนต์รักษาฝั่งได้จำนวน 1 ลำ คือ เรือ ต.91 โดยพระองค์ได้พระราชทานคำแนะนำในการสร้างเรื่อยมาจนกระทั่งการต่อเรือเสร็จสมบูรณ์ และสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้พระองค์ได้มีพระราชดำรัสที่สำคัญตอนหนึ่งว่า “บรรดาเรือรบที่ใช้ในราชการเป็นเรือที่สั่งทำจากต่างประเทศ การที่ราชการกองทัพเรือสามารถเริ่มการต่อเรือยนต์รักษาฝั่งขึ้นใช้ในราชการได้เช่นนี้ จึงควรเป็นที่น่ายินดี และน่าสนับสนุนอย่างยิ่ง นับว่าเป็นความเจริญก้าวหน้าของกองทัพเรือ”นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสนพระทัยและทรงเอาใจใส่ต่อกองทัพเรือเป็นอย่างยิ่ง ดังพระราชดำรัสของพระองค์ที่ว่า “เรือรบขนาดใหญ่มีราคาแพง และมีค่าใช้จ่ายปฏิบัติงานสูง กองทัพเรือจึงควรใช้เรือที่มีขนาดเหมาะสม และสร้างได้เอง ซึ่งเมื่อสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.91 ได้แล้ว ควรขยายแบบเรือให้ใหญ่ขึ้น และสร้างเพิ่มเติม” กองทัพเรือจึงได้น้อมรับใส่เกล้าฯ และนำไปดำเนินการจนเกิดเป็นโครงการเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.991 ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติของกองทัพเรือ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาพระอัจฉริยภาพในด้านการต่อเรือของพระองค์ท่าน เป็นที่ประจักษ์แก่กำลังพลกองทัพเรือ นับตั้งแต่เริ่มโครงการ เรือ ต.91 จนถึงเรือ ต.991 พระองค์ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้แก้ไขแบบลายเส้น และรูปทรงของเรือซึ่งผลที่ได้จากการคำนวณเป็นไปตามที่ได้มีพระบรมราชวินิจฉัยไว้ กล่าวคือ เมื่อเปรียบเทียบกับผลการคำนวณเดิม ปรากฏว่า เรือ ต.991 มีความเร็วเพิ่มขึ้น และประหยัดเชื้อเพลิงได้ร้อยละ 6 ทั้งนี้ กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จฯ ไปทรงวางกระดูกงูเรือ ต.991 ที่กรมอู่ทหารเรือด้วยพระองค์เอง อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเรือชุดถัดไป หลังจากนั้นในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2550 พระองค์ท่านและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเป็นประธานพิธีปล่อยเรือ ต.991 ลงน้ำ อันเป็นความปลื้มปีติแก่เหล่าทหารเรืออย่างหาที่สุดมิได้ รวมทั้งทำให้กองทัพเรือสามารถพัฒนาศักยภาพการต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.994 (ต.994 - ต.996) และชุดเรือ ต.997 (ต.997 - ต.998) รวมถึงเรือลำอื่น ๆ ที่ใช้ในราชการกองทัพเรือต่อมาตราบจนปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น