Rama Channel แตะ 1,000,000 ผู้ติดตามบน YouTube ตอกย้ำบทบาทสื่อสุขภาพ จากทีมแพทย์รามาธิบดี ใกล้ชิดคนไทยยิ่งขึ้น
ช่องความรู้สุขภาพภายใต้คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เดินหน้า ภารกิจ “Subscribe for Health” ผ่านคอนเทนต์สุขภาพที่เชื่อถือได้บน YouTube พร้อมรับการสนับสนุน ด้านกลยุทธ์ดิจิทัลจากพันธมิตรภายนอกอย่าง Vault Mark
Rama Channel ช่องสื่อสุขภาพอย่างเป็นทางการภายใต้คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ เมื่อช่อง YouTube “Rama Channel” มียอดผู้ติดตาม แตะหลัก 1,000,000 ผู้ติดตาม เป็นที่เรียบร้อย สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญกับการเข้าถึงข้อมูล สุขภาพที่ถูกต้อง จากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญโดยตรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลอด 19 ปีที่ผ่านมา Rama Channel ทำหน้าที่เป็น “สถานีสุขภาพดี 24 ชั่วโมง” ถ่ายทอดความรู้ ด้านการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และการรักษา ผ่านทั้งรายการโทรทัศน์ ไลฟ์สตรีม และคอนเทนต์ ออนไลน์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรายการยาวที่ลงลึกในรายละเอียดทางการแพทย์ หรือคลิปสั้น ที่ย่อยเรื่องยากให้เข้าใจได้ในไม่กี่นาที เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัย
การแตะหลัก 1,000,000 ผู้ติดตามบน YouTube ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของ Rama Channel ในการขยายบทบาทจากสื่อสุขภาพบนหน้าจอโทรทัศน์ มาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ผู้ชมสามารถเลือกดู ย้อนหลัง ค้นหาคลิปตามอาการ หรือโรคที่สนใจ และแชร์ต่อให้คนใกล้ชิดได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหัวข้อ ที่เกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และ ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
เพื่อให้เนื้อหาสุขภาพเข้าถึงกลุ่มประชาชนได้กว้างขึ้น Rama Channel ได้พัฒนารูปแบบคอนเทนต์ ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้ชมในยุคดิจิทัลมากขึ้น ทั้งการเพิ่มสัดส่วนคลิปสั้น การจัดเรียงเพลย์ลิสต์ ตามกลุ่มโรค และประเด็นสุขภาพที่คนไทยให้ความสนใจ และการนำข้อมูลเชิงสถิติมาวิเคราะห์ประกอบ การวางแผนคอนเทนต์ในระยะยาว
ในด้านกลยุทธ์ดิจิทัล Rama Channel ยังได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท วอลท์ มาร์ค จำกัด (Vault Mark) ในบทบาทที่ปรึกษาภายนอกด้านการสื่อสารบนโลกออนไลน์ การค้นหา (Search) และการมองเห็น บนแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยเน้นการประยุกต์ใช้หลักการ AI-led SEO และ Generative Engine Optimization (GEO) เพื่อช่วยให้เนื้อหาสุขภาพที่ผลิตโดยทีมแพทย์รามาธิบดี ถูกค้นพบได้ง่ายขึ้นทั้งบน YouTube และ Search Engine ต่าง ๆ รวมถึงมีโอกาสถูกแนะนำหรืออ้างอิงในบริบทที่เกี่ยวข้องในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ภาวิทย์ เพียรวิจิตร รองคณบดีฝ่ายสนับสนุนพันธกิจและสื่อสารองค์กรและผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ Rama Channel กล่าวว่า “สำหรับเรา เป้าหมาย 1,000,000 ผู้ติดตามไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่หมายถึงโอกาสที่คนไทยจำนวนมากขึ้นจะได้รับข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง จากทีมแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง เราดีใจที่เห็นว่าคอนเทนต์เชิงวิชาการเมื่อเล่าให้ง่ายขึ้น และอยู่ใน รูปแบบที่คนดูสะดวก ก็สามารถเข้าถึงคนจำนวนมาก และช่วยให้เขาดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้ดีขึ้น”
ด้าน นางสาวขวัญมนัส ธรรมศรัทธา, ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลท์ มาร์ค จำกัด กล่าวถึงบทบาทของ Vault Mark ในโครงการนี้ว่า “ในฐานะพันธมิตรดิจิทัล เราไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนเนื้อหา ทางการแพทย์ของ Rama Channel แต่เข้าไปช่วยออกแบบเส้นทางการเข้าถึง และการค้นพบให้ทั้งคน และระบบ AI มองเห็นคอนเทนต์สุขภาพที่มีคุณภาพได้ง่ายขึ้น เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นส่วนเล็ก ๆ ของความสำเร็จครั้งนี้ และเชื่อว่าโมเดลนี้สามารถต่อยอดไปสู่องค์กรด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้เช่นกัน”
หลังจากแตะหลัก 1,000,000 ผู้ติดตามแล้ว Rama Channel มีแผนจะต่อยอดพัฒนารูปแบบ คอนเทนต์เพิ่มเติม ทั้งรายการเฉพาะทาง คลิปสั้นที่ตอบโจทย์คำถามสุขภาพที่คนไทยค้นหาบ่อย และ ความร่วมมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความรู้สุขภาพที่เชื่อถือ ได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานความถูกต้องทางวิชาการ และการเล่าเรื่องในภาษาที่คนทั่วไป เข้าใจได้ง่าย
เกี่ยวกับ Rama Channel
Rama Channel เป็นช่องสื่อสุขภาพภายใต้คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ถ่ายทอดความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และการรักษา จากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ หลากหลายสาขา ผ่านรายการโทรทัศน์ ไลฟ์สตรีม และแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงช่อง YouTube “Rama Channel” ซึ่งมุ่งให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่เชื่อถือได้ในภาษาที่เข้าใจง่าย และนำไปใช้ได้จริง ในชีวิตประจำวัน
เกี่ยวกับ Vault Mark
บริษัท วอลท์ มาร์ค จำกัด (Vault Mark) เป็นเอเจนซี่ด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งและ AI-led SEO ที่ให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ด้าน Search Engine Optimization (SEO), Generative Engine Optimization (GEO) และการสื่อสารบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ช่วยให้องค์กรไทยสามารถทำให้เนื้อหา และบริการของตนเอง “ถูกค้นพบและถูกอ้างอิง” ได้มากขึ้น ทั้งโดยผู้ใช้งานจริงและระบบ AI รุ่นใหม่





ไม่มีความคิดเห็น