DOD Café & Bistro คาเฟ่ Landscape Style แหล่งพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ในอ.สามพราน จ.นครปฐม

  DOD Café & Bistro คาเฟ่ Landscape Style แหล่งพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ในอ.สามพรานจ.นครปฐม

   เรื่อง/ภาพ.....ลุงหนวด

เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาลุงหนวดเดินทางไปท่องเที่ยวยังจ.นครปฐมระหว่างเดินทางผ่านอ.สามพรานตรงกับเวลาอาหารกลางวันพอดีจึงถือโอกาสเลี้ยวรถลองแวะเข้าไปยังร้าน DOD Café & Bistro คาเฟ่ Landscape Style ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลบางช้าง อำเภอสามพรานโดยมีคุณปณัฐ สุมาลย์โรจน์ เป็นเจ้าของร้าน DOD Café & Bistro

คุณปณัฐ สุมาลย์โรจน์ เล่าให้ลุงหนวดฟังถึงการตั้งชื่อร้าน ตอนแรกก็คิดอยู่หลายชื่อเหมือนกันครับแต่มาสรุปลงตัวที่ชื่อเล่นของตัวเราเองคือ DOD ด๊อด และร้านก็เป็นตัวตนของเราเองซึ่งตรงไปตรงมาด้วย คุณ DOD ด๊อด เล่าให้ลุงหนวดฟังว่า อยากให้ในอำเภอสามพรานมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแบบชิลๆพร้อมร้านกาแฟและร้านอาหารเพิ่มขึ้นอีกสักแห่งหนึ่ง แล้วก็เป็นพื้นที่ของเราเองที่ประกอบอาชีพทางด้าน การออกแบบและLandscape อยู่แล้ว เราออกแบบพื้นที่ของเราเองจากที่ๆไม่มีอะไรเลยเคยเป็นแค่สวนท้องร่องธรรมดา เราสามารถเนรมิตให้เป็นสวนอันร่มรื่นขนาดใหญ่แบบนี้ได้ด้วยตัวของเราเอง

ร้าน DOD Café & Bistro คาเฟ่ Landscape Style พึ่งเปิดมาได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น บนพื้นที่ 12 ไร่ ทำคาเฟ่ 6 ไร่ อีก 4 ไร่ ทำเรือนเพาะชำ อีก 2 ไร่ เป็นแผนในอนาคตจะทำเป็น Villa เราได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดย Concept ของเราคือ Serving good first Impression tailor made for your tales เราต้องการให้ลูกค้าที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเราได้รับ สิ่งที่ดีๆและได้รับความประทับใจกลับไปเล่าให้คนอื่นๆฟังในครั้งแรกที่ได้มาเยี่ยมเยือนเรา

โดยร้าน DOD Café & Bistro คาเฟ่ Landscape Style จะมีสวนที่เป็นธรรมชาติ และมุมต่างๆของงานจัดสวนไว้ให้ สามารถเช็คอินถ่ายรูปได้โดยไม่รู้สึกเบื่อเลย

ส่วนด้านหน้าทางเข้าร้าน DOD Café & Bistro คาเฟ่ Landscape Style เราออกแบบให้เป็นกำแพงผนังก่อด้วยอิฐมอญสูง 6 เมตร ยาว 70 เมตร เป็นสิ่งแรกที่ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนเราได้เห็น เรานำงาน Landscape กับงานสถาปัตยกรรม เข้ามาผสมผสานกันเป็นงานเฉพาะตัวทำให้เกิด Function เชิงซ้อน เช่นเข้ามาแล้วเห็นแค่ตัวกำลังแพงอิฐ แต่ตัวคาเฟ่และร้านอาหารนั้นซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงอิฐมอญ และไฮไลท์ของเราก็คือนำอักษร Braille code มาติดไว้รวมถึงทางเดินด้วยเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่พิการทางสายตาอีกด้วย

ในส่วนของร้านอาหารของเราก็มีเมนูให้เลือกหลากหลายเมนูเริ่มตั้งแต่ starter ก่อนเป็นอันดับแรกเฉพาะ starter ของก็มีหลายเมนู สำหรับเมนูแรก Isan Nacho โดยใช้หมูสับผัดให้แห้งปรุงรสแบบลาบคั่ว Top ด้วยแผ่น Nacho Chips ราดด้วยซอสสูตรของ DOD โรยด้วยต้นหอมและ ช่อดอก Fennel ได้รสของลาบหมู และความกรอบของแผ่น Nacho ตัดด้วยความหวานของซอสเป็นอาหารทานเล่นได้เป็นอย่างดี

ผลไม้ซีซาร์ หรือยำผลไม้ เป็นเมนูอย่างแรกของเราโดยใช้ อาโวคาโด จากโครงการหลวง โดยการนำอาโวคาโด มะม่วง แก้วมังกร มะเขือเทศ มาหั่นให้เป็นลูกเต๋า ปรุงรสด้วยน้ำเลมอน กระเทียม พริกไทยดำ ตามสูตรของ DOD ได้รสเปรี้ยวอมหวานเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี

ตามด้วย Caesar Salad ใช้ผักกาดหวาน แบบออแกนิค กระเทียมบด พริกไทยดำ เบคอน กากหมู ราดด้วยน้ำสลัดที่ประกอบด้วย น้ำมะนาว น้ำมันมะกอก โรยด้วย พาร์มีซานซีสขูดฝอย และพริกไทยดำ ได้ Caesar Salad ผักกาดหวานกรอบ หอมพาร์มีซานซีส ยำส้มโอ Fennel หรือยำส้มโอผักชีล้อม เราใช้ส้มโอขาวน้ำผึ้งของสามพรานที่ เนื้อแข็งหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย กับหัว Fennel หั่นซอย มาทำยำส้มโอ ราดด้วยน้ำยำสูตรของ DOD Top ด้วยกุ้งฝอย กากหมู ถั่วบด โรยด้วยช่อดอก Fennel หั่นฝอย แทนใบสะระแหน่ ยำส้มโอรสเปรี้ยวนำหวานติดมานิดหน่อยกุ้งเนื้อเด้งหอมกลิ่น เปปเปอร์มินต์จากช่อดอก Fennel

ต่อด้วยตำถาดไทย เป็นส้มตำไทยที่เส้นมะละกอกรอบเด้ง ตำใหม่สดทุกครก รสหวานนำเปรี้ยวตาม ทานเคียงกับ เคียงด้วย ไข่ต้ม ไก่ชุมแป้งทอด เส้นหมี หมูยอ และแคบหมู แกล้มด้วยผักสด เข้ากันได้เป็นอย่างดี

Main course เป็นสำรับไทยประกอบด้วย ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน เราใช้กุ้งสดไม่ใช้กุ้งแช่แข็ง และมะพร้าวเราก็ใช้มะพร้าวในท้องถิ่นสวนสามพราน เพื่อกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย เราขูดเอาเนื้อมะพร้าวอ่อนมาใส่ลงไปแทนยอดมะพร้าว และใช้น้ำมะพร้าวแทนน้ำตาลปี๊บ ได้รสเปรี้ยวนำ หวานตามมานิดหน่อย กุ้งเนื้อเด้ง น้ำแกงต้มยำเข้มข้น หอมน้ำมะพร้าวอ่อน

ไก่กะทิเป็นเมนูแนะนำของเรา เรานำไก่ที่เลี้ยงในระบบฟาร์มปิด มาหมักด้วยกะทิสด เพราะเราต้องการมีส่วนร่วมกับชุมชนด้วย บริเวณนี้คนพื้นถิ่นเขาทำสวนมะพร้าวกันสวนใหญ่ เราก็เลยนำเอากะทิที่ทำจากมะพร้าวแก่ภายในสวนนำมาหมักกับไก่ และเครื่องเทศสมุนไพรตามสูตรของทางร้านนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 3 – 4 เซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นนำมาอบในเตาอบจนได้เป็นไก่กะทิ เนื้อนุ่ม หนังกรอบ หอมกร่นด้วยเครื่องเทศเครื่อง เคียงมาด้วยกระเทียมมันฝรั่งอบ และผักออแกนิค ทานกับน้ำจิ้มแจ่ว และน้ำจิ้มซีฟู้ด สูตรของทางร้านจะหาทานได้ที่ DOD Café & Bistro เท่านั้น

ปิดท้ายด้วย ข้าวหน้าปลาดุก ได้ไอเดียมาจากข้าวหน้าปลาไหลอาหารญี่ปุ่น แต่ใช้ปลาดุกแทน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานปลาไหล นำปลาดุกมาแล่เอาก้างออกให้หมดแล้วนำไปย่างให้สุกสีเหลืองอ่อนรับประทานกับข้าวหอมมะลิ เคียงด้วยขิงดอง ราดด้วยซอสสูตรของ DOD ปลาดุกเนื้อนุ่มหอมควันไฟ ซอสรสหวานนำตัดกับน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยกลมกล่อมเข้ากันได้ดี

ส่วนกาแฟของที่นี่เป็นแบบ specialty โดยใช้กาแฟจากต่างประเทศ Brazil Colombia Guatemala Ecuador นำมา blend รวมกันทั้ง 4 สายพันธ์ การคั่วมี 2 ระดับ คั่วกลาง Dark roast หรือ DOD blend จะได้ Body นุ่มละมุน ความเข้มน้อย มีกลิ่นผลไม้รสออกเปรี้ยวนิดๆ ทำเป็นเมนูร้อน

คั่วเข้มก็จะเป็น Drake roast จะใช้กาแฟจาก Brazil Colombia และมีกาแฟที่ผาตั้งของไทยผสมอยู่ด้วย ทำให้มีรสชาติเข้มข้น นำมาทำเป็นเมนูเย็น ผสมกับนม Chocolate Caramel แล้วรสจะกลมกล่อมเข้ากันได้ดี เมนู Signature เป็น Americano Yuzu ได้ความหอมกลิ่นกาแฟต่างจากที่อื่นเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดีเมนูที่เป็น Signature แบบ Non Coffee ก็จะเป็น Yuzu rose peach มีโซดาเป็นส่วนผสมด้วยได้ความหวานของ Syrup กลิ่นมะม่วงผสมกุหลาบนิดๆ On top ด้วยผลไม้ให้ได้คบเคี้ยวโดยเพิ่มความซ่าจากโซดาอีกด้วยอีกเมนูแนะนำเป็น Matcha Green Tea ใช้ Matcha เกรด premium นำเข้าจากญี่ปุ่น ผสมกับนมสด ได้ความหอมของกลิ่นชาเขียวขึ้นจมูก รสชาติกลมกล่อม

ส่วน Bakery เมนูแนะก็คือ Croffle ice cream คือลูกผสมระหว่างครัวซองต์ และวาฟเฟิล เนื้อแป้งจะเหนียวเหมือนแป้ง ครัวซองต์ แต่เอาแป้งมาเทใส่พิมพ์แล้วอบ ไอศครีมก็ทำเป็น gelatine ให้เนื้อละเอียดเนียนนุ่มกว่าไอศครีมทั่วไป เมนูขนมอบแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในสายคาเฟ่ แนะนำอยากให้ลองครับ

DOD Café & Bistro ร้านเปิดให้บริการทุกวัน คาเฟ่ เปิดตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 6.00 น. ร้านอาหารเปิด 10.00 น. ถึง 19.00 น. ครับผม