"รมว.ซาบีดา” เผย ครม. เคาะมาตรการใหญ่ ปลดล็อกศักยภาพดิจิทัลคอนเทนต์ไทยดึงต่างชาติร่วมผลิต – หนุนผู้ประกอบการไทยเต็มรูปแบบพร้อมอัดงบสนับสนุน 20% คาดเงินสะพัดกว่า 2,500 ล้านบาทต่อปี ดันไทยสู่ศูนย์กลางผลิตภาพยนตร์–ดิจิทัลคอนเทนต์โลก

 วันที่ 9 ธันวาคม 2568 — นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการจ้างผลิตดิจิทัลคอนเทนต์จากต่างประเทศ พร้อมมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำหลักเกณฑ์ สิทธิประโยชน์ และเงื่อนไขให้สอดคล้องกับมติ ครม.

รมว.วธ. ระบุว่า อุตสาหกรรมแอนิเมชัน วิชวลเอฟเฟกต์ และงานหลังการผลิตของไทยมีศักยภาพสูง ทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยปี 2567 ผู้ประกอบการไทยมีมูลค่าการรับจ้างจากต่างประเทศกว่า 2,300 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยต่อประเทศต่าง ๆ ที่มีมาตรการสนับสนุนที่เข้มแข็ง จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเพื่อจูงใจ

สาระสำคัญของมาตรการ คือ การสนับสนุนเงิน 20% ของมูลค่าสัญญาจ้างจากต่างประเทศ ครอบคลุมงานแอนิเมชัน VFX, CG, Virtual Production, Motion Graphics และ XR/VR/AR/MR รวมถึงบริการหลังการผลิตครบวงจร โดยโครงการต้องมีมูลค่าสัญญาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

ผู้รับสิทธิประโยชน์ คือ บริษัทต่างชาติ แต่ต้องยื่นผ่านผู้ประกอบการไทย ซึ่งต้องมีคุณสมบัติสำคัญ ได้แก่

• ผู้ถือหุ้นไทยมากกว่า 50%

• เปิดดำเนินงานอย่างน้อย 2 ปี

• มีการจ้างงานคนไทยมากกว่า 80%

เพื่อให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจย้อนกลับสู่ประเทศอย่างแท้จริง

รมว. ซาบีดาฯ ระบุว่า “มาตรการนี้เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก ช่วยสร้างงาน เพิ่มรายได้ และยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศอย่างยั่งยืน” พร้อมประเมินว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นราว 10% หรือกว่า 2,500 ล้านบาทในปี 2570

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ครม. ได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยแล้ว มาตรการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ครั้งนี้จึงถือเป็นมาตรการลำดับที่ 2 ในชุดนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์–ดิจิทัลคอนเทนต์ครบวงจร ซึ่งจะทำงานร่วมกันในการเพิ่มรายได้ กระตุ้นการจ้างงาน และผลักดันผลงานไทยสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม