Breaking News

ปลัด วธ. มอบนโยบายผู้ตรวจราชการใหม่ “โปร่งใส มาตรฐานเดียว ให้คำปรึกษาแนะนำ และทำงานร่วมกับพื้นที่อย่างมืออาชีพ”

 

4 ธ.ค. 68 นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 อนุมัติแต่งตั้ง ข้าราชการพลเรือนสามัญสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง จำนวน 5 ราย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำความกราบบังคมทูลทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นั้น เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงวัฒนธรรมมีภารกิจที่จะต้องเร่งดำเนินการ ตามนโยบายรัฐบาล นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์) รวมถึงภารกิจที่กระทรวงวัฒนธรรมได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการอีกหลายเรื่อง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  จึงได้มีคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรมแต่งตั้งให้ข้าราชการทั้ง 5 ราย รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยมีนางสาวเพชรรัตน์  สายทอง เป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง รับผิดชอบเขตตรวจราชการส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร รวมทั้งเขตตรวจราชการที่ 2, 10 และ 11 นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 5, 12 และ 16  นางสาวลิปิการ์ กำลังชัย รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 4 , 6 และ 14 นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 8, 9 และ 18 นางเสริมกิจ ชัยมงคล รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 3, 7 และ 13 และนายเจษฎา ชีวะวิชวาลกุล รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 1, 15 และ 17 

ปลัด วธ กล่าวต่อว่า ตนได้ประชุมมอบนโยบายแก่ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรมชุดใหม่ โดยเน้นย้ำบทบาทสำคัญในการทำงานอย่างมืออาชีพ ในฐานะผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรมที่ต้องกำกับดูแล  ติดตาม เร่งรัดการดำเนินงาน ให้คำปรึกษาแนะนำ และตรวจราชการตามภารกิจของหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส มีมาตรฐานเดียวทั่วประเทศ และยึดหลักธรรมาภิบาล เป็นหัวใจของการทำงาน โดยขอให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นฐานในการพิจารณา ตรวจติดตามงาน ให้คำปรึกษาแนะนำการปฎิบัติที่เป็นไปตามกฎระเบียบและแบบแผนของทางราชการ รวมถึงในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อร้องเรียนต่างๆ (ถ้ามี) ให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ รับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย ให้ครบถ้วน มีการคุ้มครองพยาน/ผู้ที่ให้ข้อมูล เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตลอดจนไม่แทรกแซงการบริหารงานของหน่วยรับตรวจ อีกทั้งต้องเสริมบทบาทเชื่อมประสานระหว่างส่วนกลางกับพื้นที่ เพื่อให้แผนงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมเกิดผลรูปธรรมต่อประชาชน และประเทศชาติในภาพรวม พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม ยึดหลัก “ครองตน ครองคน ครองงาน” ได้แก่

ครองตน: ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เรียกรับผลประโยชน์ และรักษามารยาทของผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม

ครองคน: ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน ผู้ตรวจราชการจากหน่วยงานอื่น และที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ด้วยการให้เกียรติ และเป็นกัลยาณมิตร

ครองงาน: ตรวจราชการด้วยมาตรฐานเดียว โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเสนอแนะเชิงสร้างสรรค์ เพื่อการพัฒนาพื้นที่


ปลัด วธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยังได้กำชับ “สิ่งควรทำและไม่ควรทำ” เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของระบบราชการ เช่น ควรเตรียมข้อมูลก่อนลงพื้นที่ ตรวจด้วยความละเอียดรอบคอบ ให้เกียรติผู้เกี่ยวข้อง และรายงานอย่างตรงไปตรงมา ส่วนสิ่งที่ไม่ควรทำ เช่น การใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ การสร้างภาระให้แก่พื้นที่ และการปฏิบัติที่ขัดกับจริยธรรมของข้าราชการ เป็นต้น

“ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม คือหัวใจและกำลังสำคัญที่จะทำให้งานวัฒนธรรมเดินหน้าอย่างมีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และผลักดันนโยบายรัฐบาล  กระทรวงวัฒนธรรม และภาพลักษณ์เกียรติภูมิของวัฒนธรรมไทยสู่ระดับสากลอย่างมั่นคง” ปลัด วธ กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น