ส.เจ็ตสกี จับมือพราว พัฒนากีฬาทางน้ำเชิงรุก สู่ผู้นำโลก-ช่วยเหลือสังคม
กีฬาเจ็ตสกีไทย เดินหน้างาน ต่อยอดศักยภาพ “แบรนด์ทัวร์นาเม้นท์กีฬาไทยชนิดแรก ที่ขึ้นเป็นผู้นำประเทศสมาชิกทั่วโลก 55 ชาติ” โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษา ชื่นชมวิสัยทัศน์ “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ ที่มุ่งสร้างประโยชน์ชาติและสังคม ทะลุขีดจำกัดแค่คำว่าชัยชนะกีฬา ลุยทำโครงการจิตอาสา เข้าช่วยพี่น้องประชาชนในวิกฤติน้ำท่วมอย่างน่าชื่นชม โดยได้รับการสนับสนุนหลักจากกลุ่มบริษัทพราว โดย สวนน้ำวานานาวาหัวหิน และสวนน้ำอันดามันดาภูเก็ต ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ตามโครงการอาสากู้ภัยและดูแลสิ่งแวดล้อมทางน้ำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและส่งเสริมกิจกรรมรักษาปกป้องทรัพยากรน้ำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน โดยร่วมสนับสนุนด้านเรือกู้ภัย ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อกู้ภัยน้ำท่วม รวมถึงอุปกรณ์ช่วยเหลือทางน้ำ ต่อยอดทีมเจ็ตสกีจิตอาสาให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเป็นเครื่องมือหลักสนับสนุนรัฐบาล หน่วยงานราชการ รวมทั้งภาคเอกชน ในยามที่บ้านเมือง ประชาชนเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ
ในส่วนชิงแชมป์ประเทศไทยสนามเปิดฤดูกาล 2025 ทางกลุ่มบริษัทพราว โดยสวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการต่อเนื่องในรายการ“วานา นาวา วอเตอร์จังเกิ้ล - โตโยต้า วอร์เตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2025" จัดสนามที่ 1 จาก 4 สนามประจำปี เมื่อวันที่ 5-6 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ เมืองประจวบคีรีขันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ผลตอบรับดีเยี่ยม ผู้ชมแน่นขนัด และยังช่วยขับเคลื่อนเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของกีฬานี้กว่า 120 ล้านบาท
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษา กล่าวว่า “ผมได้เห็นการเติบโตที่น่าทึ่งของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ที่มีแนวคิดในการส่งเสริมการสร้างแบรนด์ทัวร์นาเม้นท์กีฬาเจ็ตสกีอาชีพของไทย ออกไปแข่งขันบนเวทีโลก กับชาวต่างชาติ และกำลังประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำบนเวทีโลก เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง ที่สำคัญได้สร้างประโยชน์ด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยนำนักกีฬาทั่วโลก เข้ามาแข่งขันในประเทศไทยทุกปีเดือนธันวาคม ปีล่าสุด สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ซึ่งวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ โดยมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติกว่า 650 ล้านบาท ในทัวร์นาเม้นท์เวิลด์คัพ ที่พัทยา
คำถามคือคนไทยขึ้นไปเป็นผู้นำโลกได้อย่างไร และภาครัฐควรให้การสนับสนุนต่อยอดอย่างไร ในเมื่อแบรนด์กีฬาไทย พัฒนาตัวเองจนขึ้นไปเป็นผู้นำประเทศสมาชิกทั่วโลก 55 ชาติ สร้างโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ยังไม่รวมกับประโยชน์ของระบบเศรษฐกิจห่วงโซ่ในกีฬาอาชีพ ที่จะสร้างเม็ดเงินและงานประชาสัมพันธ์อีกหลายเท่าตัว และอีกหนึ่งสิ่งที่ผมชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง คือการที่สมาคมฯ ไม่ได้หยุดอยู่เพียงมิติของการแข่งขันกีฬาแต่ยังมีบทบาทสำคัญในด้านสังคม โดยเฉพาะการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วประเทศ จนเกิดเป็น ‘โครงการอาสากู้ภัยและดูแลสิ่งแวดล้อมทางน้ำ’ ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ และกลุ่มบริษัทพราว ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการนำนวัตกรรมและพลังของภาคเอกชนมาสนับสนุนระบบกู้ภัยของประเทศ พร้อมสร้างเครือข่ายอาสาสมัครที่มีความพร้อมทั้งทักษะ ความเสียสละ และจิตอาสา ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ ผมเห็นว่าความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินทางน้ำได้อย่างทันท่วงที แต่ยังเป็นต้นแบบของการเชื่อมโยง ‘กีฬา สิ่งแวดล้อม และเยาวชน’ เข้าไว้ด้วยกันอย่างยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะยาวได้อย่างน่าภาคภูมิใจ”
คุณพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทพราว และ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “ไม่คาดคิดว่าเจ็ตสกีจะสามารถสร้างประโยชน์ในด้านงานกู้ภัยได้อย่างมีศักยภาพขนาดนี้ ได้ทราบข้อมูลว่า เจ็ตสกีไม่มีใบพัดด้านนอกตัวเรือ และสามารถฝ่ากระแสน้ำแรงได้ดีมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมา ท่านนายกสมาคมฯ ได้ถอดบทเรียนและวางแผนดำเนินโครงการที่สามารถสนับสนุนภาครัฐในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีระบบ นี่จึงเป็นที่มาของ ‘โครงการอาสากู้ภัยและดูแลสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ซึ่งกลุ่มบริษัทพราวเห็นถึงความสำคัญ และยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการนี้ให้เกิดขึ้นจริง เรามีความตั้งใจดูแลพื้นที่ชุมชนเและพื้นที่เศรฐกิจ เพราะประเทศไทยต้องเจอกับปัญหาอุทกภัยทุกปี ส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวโดยตรง ซึ่งสร้างปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชน
เรามองว่า กีฬาเจ็ตสกี ไม่ได้มีแค่บทบาทในการแข่งขันหรือส่งเสริมเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดให้เกิดคุณค่าทางสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม โครงการนี้จึงไม่เพียงแค่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แต่ยังเป็นต้นแบบของการผสานพลังระหว่างภาคธุรกิจ กีฬา และจิตอาสา
นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสมท. เล็งเห็นว่า กีฬานี้เป็นกีฬาแบรนด์ไทย ที่เติบโตไปบนเวทีโลกอย่างน่าสนใจ และนับว่ามีอนาคตไกล จึงอย่างสนับสนุนกีฬาไทยเช่นนี้ ให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศไทย ได้รับข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และร่วมภาคภูมิใจไปกับความสำเร็จด้านกีฬาชาติ และแน่นอนว่า ด้านโครงการจิตอาสากู้ภัย อสมท. ก็ยินดีร่วมมือสนับสนุนอย่างเต็มที่
“บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ กล่าวสรุปว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ทุกท่านให้ความสำคัญและร่วมสนับสนุนกีฬาเจ็ตสกี สมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ พร้อมด้วย WGP#1 มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนกีฬาเจ็ตสกีให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับอาชีพระดับโลก กีฬาสมัครเล่นในระดับภูมิภาค เช่น ซีเกมส์ 2025 ตลอดจนขยายบทบาทของกีฬาไปสู่มิติสังคม ผ่านโครงการจิตอาสาและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เจ็ตสกีไม่เพียงแต่เป็นกีฬาแห่งความเร็วหรือความมันส์ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เราเชื่อมั่นว่า เจ็ตสกีจะเป็นหนึ่งในกีฬาที่คนไทยได้ชื่นชม และภาคภูมิใจร่วมกันอย่างแท้จริง
การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยสนามเปิดฤดูกาล ณ เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 5–6 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม มีผู้ชมเข้าร่วมงานแน่นขนัด และยังช่วยขับเคลื่อนเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของกีฬานี้กว่า 120 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ว่า กีฬาเจ็ตสกีไม่เพียงสร้างความสุขให้ประชาชน แต่ยังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม”
ไม่มีความคิดเห็น