Breaking News

แสงเทียนแห่งศรัทธา แห่เทียนพรรษาเมืองโคราช" Korat : The City of Candle Light

 

เทศบาลนครนครราชสีมาจัดแถลงข่าวงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2566 ภายใต้ชื่องาน "แสงเทียนแห่งศรัทธา แห่เทียนพรรษาเมืองโคราช" Korat : The City of Candle Light ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคม 2566 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุนารี สวนสุรนารี และสวนเมืองทอง เพื่อส่งเสริม และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วยนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา นางสาวกรรณิการ์ พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย นางสุทิน ชาติพุดซา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม นางสาวเกตน์สิรี สมบูรณ์ศิลป์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐินี ทองดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ประธานที่ปรึกษานายกเทศมนตรี ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ณ ศาลาไทย ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยกล่าวถึงการจัดกิจกรรมภายในงานที่จะเกิดขึ้น อาทิ การประกวดต้นเทียนพรรษา ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, การประกวดขบวนแห่ต้นเทียนที่วิจิตรตระการตาแสดงความเป็นอัตลักษณ์ของโคราช รวมถึงสีสันของขบวนแห่ที่หลากหลาย, พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานบุษบกและอัญเชิญพระนาคปรกอายุกว่า 1,500 ปีจากวัดพระนารายณ์มาประดิษฐานบริเวณลานย่าโมให้พี่น้องประชาชนได้กราบไหว้สักการะ, พิธีเจริญพระพุทธมนต์ , การหล่อเทียนพรรษาถวายวัดเป็นพุทธบูชา, กิจกรรม Workshop สืบสานวัฒนธรรมทำเทียนพรรษาโคราชที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม และการแสดงดนตรี แสง สี เสียง ภายในงาน เป็นต้น







นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า เทศบาลนครนครราชสีมา ได้กำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2566 ภายใต้ชื่องาน "แสงเทียนแห่งศรัทธา แห่เทียนพรรษาเมืองโคราช" Korat : The City of Candle Light ในวันที่ 1 - 4 สิงหาคม 2566 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด วัฒนธรรมมรดกไทยทางพระพุทธศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี ให้ยังคงความดีงามอย่างยั่งยืน ทำนุบำรุงรักษาไว้ซึ่งสิ่งอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา และร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นการต่อยอดองค์ความรู้สู่สังคมไทย ซึ่งปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองโคราชหลังจากสถานการณ์โควิด – 19 อีกทางหนึ่ง จุดเด่นของปีนี้คือการประกวดต้นเทียนพรรษาชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีวัดที่ให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดถึง 12 วัด และยังมีการประกวดขบวนแห่จากภาคประชาชน สถานศึกษา หน่วยงานต่างๆ อีก 5 ขบวนแห่ ที่จัดขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม 2566 โดยจะเคลื่อนขบวนแห่ไปยังเส้นทางต่างๆรอบเมืองตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป





งานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2566 "แสงเทียนแห่งศรัทธา แห่เทียนพรรษาเมืองโคราช" Korat : The City of Candle Light ในระหว่างวันที่ 1 - 4 สิงหาคม 2566 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี กิจกรรมภายในจะมีการประกวดต้นเทียนพรรษา ประเภท ก และประเภท ข, การประกวดขบวนแห่, พิธีทำบุญตักบาตร, มีการจัดขบวนเทิดพระเกียรติ อัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทาน จำนวน 5 ขบวน ประกอบด้วย ขบวน “แสงสว่างกลางใจประชา” (ขบวนนำ), ขบวน “แสงเทียนแห่งศรัทธา”, ขบวน “แสงเทียนแห่งอารยชน” , ขบวน “แสงเทียนแห่งบรรพชีวิน” และขบวน “แสงสว่างแห่งเสรี”, การแสดงแสง สี เสียง การแสดงโขน การแสดงดนตรีออเคสตร้าประกอบต้นเทียน, การแสดงดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรม, การสาธิตการแกะเทียน การพิมพ์เทียน การให้ความรู้ทางศิลปะ การหล่อเทียนที่ประชาชนได้มีส่วนร่วม การนำเทียนที่หล่อไปถวายวัดร่วมกันเพื่อรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม การจัดนิทรรศการให้ความรู้เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและเห็นคุณค่ามรดกทางศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมการแห่เทียนพรรษามิให้สูญหาย ประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมชมงานได้ทราบรายละเอียดและความสำคัญของประเพณีวันเข้าพรรษา และการแห่เทียนพรรษา ซึ่งถือว่าเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาของไทย การจัดงานแห่เทียนพรรษาของโคราชในห้วงเวลาที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่าวันละ 50,000 คน หากตรงกับช่วงวันหยุดยาวหรือเสาร์อาทิตย์ การจัดงานที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่าวันละ 100,000 คน ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ผู้มาเที่ยวงานได้จับจ่ายใช้สอย เฉลี่ยคนละ 500 บาท ก่อให้เกิดรายได้มากถึง 50,000,000 บาท เทศบาลนครนครราชสีมาคาดว่าการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาปีนี้อย่างต่อเนื่อง 4 วัน จะเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติได้เดินทางมาเที่ยวชมมากขึ้น สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองโคราชได้เป็นอย่างดี





ไม่มีความคิดเห็น