Breaking News

แบนบุหรี่ไฟฟ้าไม่ตอบโจทย์? ผู้ใช้ฯ เสนอ กมธ. วิสามัญฯ ออกกฎหมายควบคุม เก็บภาษี ป้องกันเด็กเยาวชน


เพจ “มนุษย์ควัน” ยกกรณี ‘หมอทศพร’ ร้องกลางสภาฯ เด็กประถมใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพียบ หาซื้อง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ไร้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจัดการ เผยกระแสผู้ปกครองร้องเรียนหน่วยงานกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีทีท่าลดลง หลังบุหรี่ไฟฟ้าทะลักไทยหนัก แม้ประเทศไทยมีกฎหมายแบนบุหรี่ไฟฟ้าเข้าสู่ปีที่เก้าก็ตาม พร้อมตั้งคำถามหากแบนแล้วยังต้องไล่จับ เหตุใดไม่ทำให้ถูกกฎหมายแล้วกำหนดอายุผู้ซื้อขายและสถานที่ขายแทน


นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน แอดมินเพจเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ “มนุษย์ควัน” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 26,000 ราย ระบุในโพสต์อ้างอิงจากกรณีรายงานข่าวผู้ปกครองจากหลายจังหวัดร้องเรียนให้หน่วยงานรัฐช่วยดูแลกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าที่ขายออนไลน์และบริเวณใกล้สถานศึกษาอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย หวั่นมอมเมาเด็กและเยาวชน 



“ตอนนี้ข่าวเด็กใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของจำนวนเคสที่พบ และอายุของเด็กที่ลดลง ก่อนหน้านี้เราพบเด็กมหาวิทยาลัย หรือเด็กมัธยมที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า แต่ตอนนี้ข่าวรายงานว่าพบเด็กประถมใช้บุหรี่ไฟฟ้าด้วยซ้ำเด็กและเยาวชนสมัยนี้มีความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยีสูง จึงไม่เป็นเรื่องยากเลยที่จะสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาส่ง โดยที่ผู้ปกครองไม่ทราบ และร้านค้าเองก็ไม่สนใจว่าผู้ซื้ออายุเท่าไหร่ เป็นเด็กและเยาวชนหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นเครื่องยืนยันว่า กฎหมายการแบนบุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนอย่างแท้จริง”


นอกจากนี้ นายสาริษฎ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ ‘หมอทศพร’ หรือนายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ แพทย์ และสมาชิกผู้แทนราษฎรเขต 1 จังหวัดแพร่ อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กประถม ซึ่งทำการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์  ว่า “ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเองก็ได้มีการกล่าวถึงกรณีการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กเช่นกัน ยิ่งทำให้ชัดเจนว่าประเด็นนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ยังไร้การแก้ไข แต่ในช่วงเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา ผมมองว่าไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ สัมมนา หรือการใช้มาตรการอื่นใดก็คงไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนได้ดีเท่าการนำบุหรี่ไฟฟ้ามาควบคุมให้ชัดเจนด้วยกฎหมายเช่นเดียวกับการควบคุมบุหรี่ อย่างน้อยก็จะสามารถจำกัดและตรวจสอบอายุผู้ซื้อขาย สถานที่ขาย รวมถึงคุณภาพและส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ได้”


“ในประเทศที่แบนบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ต้องพบกับปัญหาอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนที่พุ่งสูง มากกว่าประเทศที่ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นไทย สิงคโปร์ อินเดีย ออสเตรเลีย 


การแบนทำให้ไมสามารถเข้ามาควบคุม สอดส่องทั้งเรื่องการซื้อขาย การทำการตลาด อายุขั้นต่ำ ภาพคำเตือน คุณภาพและความปลอดภัยได้ แถมการแบนยิ่งไปกระตุ้นให้เด็กอยากฝ่าฝืนมากขึ้น จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคณะกรรมาธิการวิสามัญที่พิจารณาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าพิจารณาหาแนวทางใหม่แทนการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริงในปัจจุบัน”

ไม่มีความคิดเห็น