Breaking News

ท่องเที่ยวใกล้กรุงเชิงวัฒนธรรม - เกษตร@เพชรบุรี มีดีมากกว่าที่คิด

หลังจากร่วมงาน เทศกาลกินหอย ตกหมึก @ ชะอำ ประจำปี 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้วลุงหนวดขออาสาพาท่านผู้อ่านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม- เกษตรโดยเดินทางมายังวัดชะอำคีรี จากนั้นขึ้นบันไดนาคราช 7 เศียร ชมถ้ำใบโพธิ์แห่งเดียวในประเทศไทยและกราบบูชาองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า“หลวงปู่ดำ” แห่งวัดชะอำคีรี เทศบาลเมืองชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี




ลุงหนวดขอเล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดชะอำคีรี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของชาวชุมชนชาว “ชะอาน”ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น “ชะอำ”นั้นเอง โดยมีเรื่องราวเล่าขานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนว่าสมัยแผ่นดินอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศวมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถทรงนำกองทัพจากกรุงศรีอยุธยาเพื่อไปตีเมืองตะนาวศรีของพม่าและกองทัพได้หยุดพักบริเวณนี้ครั้งนั้นเหล่าทหารได้เอาอานช้าง อานม้าลงมาล้างในบึงน้ำด้วยเหตุผลนี้ชาวบ้านจึงเรียกว่า “บ้านชะอาน” เรียกไปเรียกมาเชื่อว่าเพี้ยนมาเป็น “ชะอำ” ถึงทุกวันนี้แล้วก็มีการสร้างวัดขึ้นมาจึงให้ชื่อว่า “วัดชะอำคีรี” ครับ

สำหรับ “วัดชะอำคีรี” นี้ เชิงเขามีบรรยากาศร่มรื่นมากด้วยพืชพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ สำหรับสิ่งสำคัญต่างๆภายในวัดมีดังต่อไปนี้

จุดที่ 1 ตำหนักหลวงปู่ดำ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์ท่านสีดำปางมารวิชัยประดิษฐานคู่กับองค์พระพุทธรูปสีทองปางสมาธิ คนส่วนใหญ่มากราบบูชาขอพรได้สมความปรารถนา เช่น เรื่องค้าขาย หน้าที่การงานและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีองค์ฤาษีตาไฟประดิษฐานอยู่ด้วย ก็ขอพรได้เช่นกัน

จุดที่ 2 ขึ้นบันไดพญานาคราช 7 เศียร 108 ขั้นเดินขึ้นบันไดแบบไม่ต้องรีบเร่งพอถึงบนเขากราบบูชาองค์พระพุทธรูปเรียกว่า “พระเจ้าเปิดโลก” ขอพรได้ทุกเรื่องครับ

จุดที่ 3 หน้าถ้ำรูปใบโพธิ์หรือใบต้นพระศรีมหาโพธิ์สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาบริเวณนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติไม่ได้ปรุงแต่งถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ก่อนจะลอดผ่านช่องใบโพธิ์ให้ตั้งจิตใจอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่าเทพเทวดาที่สถิตในป่าเขาตามความเชื่อของแต่ละคนแล้วขอพรได้ เช่น ขอให้ครอบครัวมีความสุข หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองหรือโชคลาภร่ำรวยเงินทอง เป็นต้น

จุดที่ 4 เข้าชมในถ้ำที่ประดิษฐานพระธาตุ บริเวณนี้เคยใช้ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาและปลุกเสกเครื่องรางของขลัง จุดนี้กราบขอพรได้เช่นกันครับ
สำหรับ 4 จุดนี้อยู่ในบริเวณเดียวกัน ผมเดินไปกราบขอพรในทุกๆจุด ผมรู้สึกประทับใจมากครับกับการเดินขึ้นบันไดพญานาคราชเพราะสร้างได้สวยงามดูแล้วมีพลังเชื่อว่ามีเทพเทวดาสถิตอยู่ บรรยากาศก็ร่มรื่นมากครับ เดินได้เรื่อยๆ แถมยังได้ชมและถ่ายรูปถ้ำใบโพธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สวยมากครับ
สำหรับด้านล่างของวัดชะอำคีรียังมี “พระอุโบสถหลังใหม่” ภายในประดิษฐานองค์พระพุทธรูปคือพระประธานเป็นพระพุทธรูปที่มีซุ้มเรือนแก้วครอบพุทธลักษณะงดงามคล้ายพระพุทธชินราชเมืองสองแคว พิษณุโลก แต่ที่สำคัญฐานองค์พระพุทธรูปมีองค์พญาครุฑค้ำจุนอยู่ตามคติความเชื่อ ขอพรได้ให้มีอำนาจบารมี เพราะองค์พญาครุฑมีอิทธิฤทธิ์ กำลังมหาศาลไม่มีวันดับหรือตาย ไปกราบขอพรกันได้ครับ
“วัดชะอำคีรี” ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษม อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ไปท่องเที่ยวพร้อมกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันได้ครับ

                                                พระอุโบสถวัดชะอำคีรี

                         พระประธานภายในพระอุโบสถวัดชะอำคีรี
จากวัดชะอำคีรีลุงหนวดขอพาท่านผู้เดินทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรกันที่ “สวนตาลลุงถนอม” แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาตาลโตนด หรือกลุ่มอนุรักษ์และสืบสานตาลโตนด ตั้งอยู่ที่ ม.4 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรีห่างจากตัวเมืองเพชรบุรีระยะทาง13กม.


                                คุณ อำนาจ ภู่เงิน ลูกชายลุงถนอม
หนึ่งเดียวของจังหวัดเพชรบุรีที่มีการปลูกต้นตาลเรียงกันเป็นแถว ภายในพื้นที่กว่า10ไร่ เป็นพื้นที่ที่มากไปด้วยต้นตาล และวิถีการทำตาลของชาวบ้านที่นับว่าหาดูยากในเมืองไทยเป็นชุมชนที่โดดเด่นไปด้วยภูมิปัญญาจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในชุมชนท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี

    ลุงอำนาจ ภู่เงิน ลูกชายลุงถนอมสาธิตเก็บผลผลิตจากต้นตาล
สำหรับแรงบันดาลใจในการปลูกต้นตาลของลุงถนอม เพื่อคงรักษาต้นตาลไว้ไม่ให้สูญหายจนเหลือไว้แต่เพียงตำนาน เพราะต้นตาลถือเป็นต้นไม้ที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดเพชรบุรี ดังคำพูดที่ว่า “เมื่อคิดถึงเพชรบุรีต้องคิดถึงต้นตาล” ลุงถนอมจึงอยากอนุรักษ์สวนตาลไว้ให้อยู่คู่เมืองเพชร จึงได้ดำเนินการปลูกเป็นสวนมานานกว่า 20 ปีในสวนของลุงถนอมจะปลูกต้นตาลเป็นระเบียบแนวทอดยาว มองดูแล้วชวนสบายตา มีลมพัดมาเย็นสบายใจ ภายในสวนตาลยังมีบรรยากาศร่มรื่น เมื่อเดินดูรอบๆจะได้ยินเสียงนกส่งเสียงร้องอยู่ตลอดเวลา




          ผลไม้+ของหวานมีจำหน่ายมากมายในสวนลุงถนอม
"สวนตาลลุงถนอม" นอกจากต้นตาลจะให้ผลผลิตออกมาหลากหลาย ทั้งจาวตาล ลูกตาลสด หรือน้ำตาลโตนด ที่นำมาเป็นส่วนผสมที่สำคัญในการผลิตเป็นขนมไทยนานาชนิดแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงานด้านการทำตาล ให้กับเยาวชน นักท่องเที่ยว และผู้สนใจเข้ามาศึกษาอีกด้วย ซึ่งจะได้เห็นต้นตาลแล้ว ก็จะได้ความรู้ประโยชน์ของต้นตาล การเก็บน้ำตาลโตนด การเคี่ยวน้ำตาล มีการสาธิตทำขนมตาลอร่อยๆ มาให้ได้ชมและชิมกัน
     ลุงอำนาจ ภู่เงิน ลูกชายลุงถนอมเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่เยาวชนที่สนใจ

       ลุงอำนาจ ภู่เงิน ลูกชายลุงถนอมเป็นวิทยากรบรรยายการขึ้นต้นตาล+ปาดตาลให้ความรู้แก่เยาวชนที่สนใจฟัง
 “สวนตาลลุงหนอม” ตั้งอยู่ที่ ม.4 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรีห่างจากตัวเมืองเพชรบุรีระยะทาง13กม. สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 32 440355 และ 08 7800 7716

“สวนเลม่อนเงินล้าน”
“สวนเลม่อนเงินล้าน” ของ คุณต่อศักดิ์ วัฒนวิจารณ์ และคุณ วราภรณ์ สิทธิวัง สองสามีภรรยาเกษตรกรและนักธุรกิจที่ลงทุนสร้างสวนเลม่อนขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ที่ ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังซานโตรินี ปลูกเลม่อนไว้มากกว่า 3 พันต้น..


                                            สวนเลมอน
    คุณ วราภรณ์ สิทธิวัง เกษตรกรที่ลงทุนสร้างสวนเลม่อน
“เลม่อน” เป็นที่นิยมในต่างประเทศ ทั้งที่อิตาลี เยอรมัน อังกฤษ และทั่วยุโรป นอกจากจะเป็นไม้ประดับสร้างความสวยงามให้แก่บ้านแล้ว ผลของเลม่อนยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่ม,เครื่องสำอาง,สบู่,ยาสีฟัน,น้ำยาซักผ้า,น้ำยาถูพื้นหรือแปรรูปเป็นเวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ใช้ทำอาหารก็ได้ เป็นสวนผลไม้ที่มีกินตลอดทั้งปี เพราะเลม่อนออกผลทั้งปีเจ้าของสวนเริ่มต้นจากการปลูกจาก 30 ไร่ มีเลม่อนประมาณ 3,000 ต้น ปัจจุบันมี 9 สายพันธุ์ แต่คัดเลือกไว้เพียง 3 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นที่นิยมให้ผลผลิตและดีที่สุด..



                      ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆภายในสวนเลมอน
“เลม่อน” เป็นไม้ยืนต้นมีอายุยืนพอๆกับอายุคน ใครอยากจะสร้างสวนเลม่อน สามารถมาเรียนรู้และเรียนลัดได้เลย เพราะผ่านการทดลอง และลองผิดลองถูกมามากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การให้น้ำ การใส่ปุ๋ย เจ้าของสวนพร้อมจะแบ่งปันความรู้โดยไม่ปิดบัง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายทั้งแบบออนไลน์และหน้าร้านรวมทั้งยังมีสาขาที่สวนจตุจักรอีกด้วยครับท่านใดสนใจอยากลองชิมเมลอนสด ๆ เชิญได้มีหน้าร้านบริการเครื่องดื่มจากเลมอนสด ๆ ครับ ที่ Fresh-1 Lemon Farm in JJ market, ถนน กำแพงเพชร 2 แขวง จตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย (ตรงข้ามกับตึกแดงครับ)
สนใจเชิญชมสวนได้ที่ ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังซานโตรินี หรือติดตามได้ทางเพจ เฟซบุ๊ค Fresh-1 Lemon Farm โทรศัพท์ 086 801 8833 และ0816401463 สอบถาม ททท.สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0 3247 1005 – 6 และที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย …
  
สปาเกลือ
“สปาเกลือกังหันทอง” ที่บ้านทรงไทยกังหันทองแห่งนี้มีเรื่องของความสวยความงามด้วยสปาเกลือ Sense of Salt ที่เปิดตัวใหม่มาแรงเพราะเป็นแหล่งผลิตเกลือสปาผิวโดยใช้ดอกเกลือเป็นที่แรกๆ ในประเทศไทยทันทีที่เดินทางไปถึงบ้านกังหันทองจะมีพนักงานผู้ให้บริการสปาเกลือต่างออกมาต้อนรับคณะพร้อมภาชนะอุปกรณ์ในการให้บริการสปาเกลือด้วยรอยยิ้มแล้วบอกให้นั่งแช่เท้ากันกันด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ ทำให้รู้สึกสบายผ่อนคลายขึ้นมากเลยครับ ต่อไปก็นวดเท้าตามขั้นตอนกรรมวิธีอย่างชำนาญ รู้สึกผ่อนคลายสบายเท้า นวดแขน นวดคอบาไหล่คลายเส้น คลายความเมื่อยตึง คลายปวดและคลายเครียดได้ดีมากครับ


หากท่านใดชอบนวดหน้า ขัดหน้า ขัดผิวด้วยผลิตภัณฑ์เกลือธรรมชาติก็เชิญด้านในเลยครับมีบริการด้วยเช่นกันใช้เวลาสัก 1-2 ชั่วโมง สำหรับการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจแบบนี้ ทำให้รู้สึกมีความสุขทั้งกายและใจพร้อมกัน พร้อมได้ความรู้เรื่องของนาเกลือริมทะเลโคลนอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เพราะบ้านกังหันทองสปาเกลือที่นี้เขาใช้เกลือมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ขัดผิว นวดตัว ขัดหน้า ว่ากันด้วยเรื่องของความงามผิวพรรณจริงๆ เรื่องของความงามนี้ก็มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ซึ่งมีเกลือเป็นตัวหลัก เช่น สบู่ฟอกตัวหรือฟอกผิวกาย ครีมบำรุงผิวหน้า ครีมบำรุงผิวพรรณ ครีมสำหรับขัดตัวกลิ่นต่างๆ มีให้เลือกหลากหลาย สเปย์น้ำแร่เกลือนี่ก็เด็ดดีครับ เพราะคุณสมบัติของเกลือนั้นมีไว้เพื่อดับกลิ่นคาว ดับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ ฆ่าเชื้อโรค ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรก เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ตามคุณสมบัตินั้นๆ นะครับ
นอกจากนี้บ้านกังหันทอง ยังมีบริการนวดตัวนวดเท้า 1 ชั่วโมง 300 บาท 2 ชั่วโมง 500 บาท เลือกได้ครับ จะเป็นนวดแผนไทย คอ บ่า ไหล หรือจะเป็นนวดเท้า เพื่อสุขภาพด้วยบรรยากาศแบบไทยๆ ที่เรือนไทย รับลมเย็นกายสบายใจจริงๆครับ



                   ผลิตภัณท์ต่างๆในสปาเกลือกังหันทอง
     คุณสมพงษ์ หนูศาตร์ ผู้ใหญ่เก๋ ผู้ริเริ่มและเจ้าของสปาเกลือ กังหันทอง
ขอแถมท้ายว่า “สปาเกลือกังหันทอง” เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในรูปแบบการทำนาเกลือแล้วใช้ดอกเกลือที่ผลิตโดยธรรมชาติคือแสงตะวันหรือแสงแดดร้อนๆ ลงมาที่นาเกลือที่ใช้น้ำทะเลขังไว้น้ำก็จะแห้งกล้ายเป็นเม็ดเกลือแล้วก็เอามาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความงามหรือเครื่องสำอางบำรุงผิวพรรณในรูปแบบต่างๆ


สนใจใช้บริการ “สปาเกลือกังหันทอง” อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ภูมิภาคภาคกลาง ที่นำคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยครับ ท่านผู้อ่านสามารถหาข้อมูลได้จาก www.kanghuntong.com

ไม่มีความคิดเห็น