Breaking News

หัวเว่ยเปิดตัวโครงการ Seeds for the Future ในประเทศไทยครั้งใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาครองนายกรัฐมนตรีไทยให้เกียรติร่วมแสดงปาฐกถาในพิธีเปิดโครงการพัฒนาทักษะดิจิทัล

 กรุงเทพฯ, 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565หัวเว่ยเปิดตัวโครงการ Seeds for the Future 2022 ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิอาเซียนและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โครงการดังกล่าวจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่19 - 27 สิงหาคมนี้ โดยมีนักศึกษาระดับแนวหน้ากว่า 120 คนจาก 16 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกซึ่งมีนักศึกษา 10 คนจากประเทศไทย เข้าค่ายพัฒนาทักษะดิจิทัลนี้เป็นเวลา 9 วันในประเทศไทย เพื่อสร้างความตระหนักซึมซับกับเทคโนโลยีและประสบการณ์การเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาสังคมในโครงการ Tech4Good

ในภาพนายไซมอน หลิน ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย เอเชียแปซิฟิก (ที่ 5 จากซ้าย) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ที่ 6 จากซ้าย) ดร. หยาง มี เอ็ง กรรมการบริหารมูลนิธิอาเซียน (ที่ 4 จากซ้าย) นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ขวาสุด) นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) นางสาวดิปู โมนิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของบังกลาเทศ (ที่ 3 จากซ้าย) นางสาวอัตสึโกะ โอคูดะ ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) (ที่ 7 จากซ้าย) และนายหลี่ปิง หวัง หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมด้านการศึกษาและการพัฒนาทักษะ ยูเนสโก (ซ้ายสุด) ร่วมพิธีเปิดโครงการ “Seed for the Future 2022” ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
โครงการ Asia Pacific Seeds for the Future 2022 ถือเป็นปฐมบทของโครงการ Seeds for the Future ระดับอาเซียน นับตั้งแต่การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างหัวเว่ยและมูลนิธิอาเซียน เพื่อยกระดับ Seeds for the Future ระดับภูมิภาค ในปี พ.ศ. 2564 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพการจัดทริปทัศนศึกษาสำหรับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน Seeds for the future ในปีนี้ ด้วยเป้าหมายในการนำเสนอประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ
พิธีเปิดโครงการครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐและตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศมากมายเข้าร่วม นอกจากนี้ อีกทั้งมีวิทยากรต่าง ๆ ขึ้นกล่าวปาฐกถาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันหลายฝ่าย เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับอีโคซิสเต็มเพื่อผู้ที่มีทักษะทางดิจิทัลในภูมิภาค
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ขึ้นกล่าวภายในงานว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน Huawei Seeds for the Future ประจำปี 2022 ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย ผมต้องขอขอบคุณหัวเว่ยที่จัดโครงการดีๆ เช่นนี้ ปัจจุบัน ภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือกันพัฒนาบุคลากรทางด้านไอซีทีเพื่อปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ผมเชื่อว่าการร่วมมือกันจัดการฝึกอบรมกับบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างหัวเว่ย จะช่วยยกระดับศักยภาพทางการศึกษาและจะเป็นก้าวสำคัญต่อการพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายในการเพิ่มความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสู่ระดับโลก”
ด้านนายไซมอน หลิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เอเชียแปซิฟิก ได้แสดงวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยในการพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถว่า “คำว่า ’seeds’ เปรียบเสมือนตัวแทนของความหวัง ความชื่นชอบ และอนาคต ในฐานะที่โครงการนี้เป็นโครงการซีเอสอาร์ระดับเรือธงขององค์กร โปรแกรมนี้ได้ขยายไปยังประเทศและภูมิภาคต่างๆ เกือบ 140 แห่ง เข้าถึงนักศึกษามากกว่า 12,000 คนจากมหาวิทยาลัย 500 แห่ง ซึ่ง “Seeds” หรือเมล็ดพันธุ์นี้ได้เติบโตจนกลายเป็น “Forest” หรือป่าระดับโลก การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นแรงผลักดันสำหรับอนาคตของเรา และบุคลากรที่มีทักษะจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลและการเติบโตอย่างยั่งยืน หัวเว่ยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคนรุ่นใหม่จะเติบโตมาในฐานะผู้สร้างของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พวกเขาจะแกร่งขึ้นหากพวกเขาได้ไล่ตามความฝันด้านเทคโนโลยี”โครงการ Seeds for the Future 2022 ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่เพียงแต่เป็นโครงการที่ให้ความรู้ แต่ยังเป็นการปรับเปลี่ยนจากไอเดียไปสู่การริเริ่มโครงการต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับคุณภาพชีวิตและความสุขในภาคสังคม
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า “โครงการ Seeds for the Future มีความสำคัญสำหรับนักศึกษาที่สนใจในด้านไอซีทีและเทคโนโลยีดิจิทัล เพราะเป็นการช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยทางกระทรวงศึกษาธิการมีวิสัยทัศน์มุ่งเน้นเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งการศึกษาก็ควรให้ความสำคัญกับทักษะด้านดิจิทัลควบคู่กันไปด้วย จุดนี้ถือเป็นพัฒนาการที่สําคัญที่สุดของวงการการศึกษาไทย ซึ่งทางกระทรวงจะร่วมมือกับหัวเว่ย ประเทศไทยอย่างเต็มที่เพื่อเสริมสร้างคุณภาพทางการศึกษาในทุกรูปแบบ นำไปสู่การยกระดับการพัฒนาการศึกษาสู่ระดับสากล”
นายกฤษฏา คงคะจันทร์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้กล่าวชื่นชมโครงการ Seeds for the Future ว่า “โครงการนี้ถือเป็นแพลตฟอร์มชั้นยอดสำหรับการแลกเปลี่ยนของเยาวชนในระดับภูมิภาค และยังเปิดให้นักศึกษาในประเทศมีโอกาสเรียนรู้ร่วมกับหัวเว่ยเพื่อพัฒนาบุคลากรในด้านทักษะทางไอซีทีในประเทศนั้น ๆ และเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างประเทศและวัฒนธรรมอันหลากหลาย”นับจากนี้ เหล่านักศึกษาจะได้เริ่มต้นการเดินทางที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและดิจิทัลเข้าด้วยกัน อาทิ การเยี่ยมชมศูนย์กลางกระดับภูมิภาคของสหประชาชาติ งานมหกรรม Metaverse Expo และพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ในขณะเดียวกัน พวกเขาจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่าง 5G, AI และการประมวลผลคลาวด์จากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้วย
ในระหว่างโครงการค่ายดิจิทัล ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องจัดทีมและสร้างโครงการนำเสนอสำหรับ "Tech4Good" และแบ่งปันวิสัยทัศน์ของพวกเขาในการสร้างโลกดิจิทัลที่ดีขึ้น โดยทีมที่ชนะจะได้เข้าแคมป์หลักสูตรเร่งรัดที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 29 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน พ.ศ. 2565 ซึ่งพวกเขาจะได้รับโอกาสในการพบกับผู้ประกอบการและ
นักลงทุนระดับแนวหน้า และเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาความคิดริเริ่มของพวกเขาต่อไป ก่อนที่จะนำแนวคิดของพวกเขาพัฒนาออกสู่ตลาด
หัวเว่ยได้จัดโครงการการแข่งขัน Tech4Good ในระดับโลกเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา โดยโปรเจ็ค “Are u OK” จากทีมของประเทศไทยได้คว้ารางวัลเหรียญทอง ด้วยโซลูชันสำหรับช่วยให้ผู้ป่วยในประเทศไทยได้รับการรักษากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
การบ่มเพาะบุคลากรด้านดิจิทัลถือเป็นกลยุทธ์ที่หัวเว่ยประเทศไทยให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง โครงการ Seeds for the Future เป็นโครงการหลักด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรระดับโลกอย่างหัวเว่ย ซึ่งรวบรวมเยาวชนที่มีความสามารถระดับโลกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำมาเข้าค่ายฝึกอบรมดิจิทัลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยโครงการ Seeds for the Future ริเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2551 ในประเทศไทย ทั้งนี้ นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเสริมว่าหัวเว่ยได้สนับสนุนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านทักษะดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง และผลักดันการเพิ่มทักษะให้แรงงาน ส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความเข้าใจและสนใจภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมากขึ้น รวมทั้งกระตุ้นให้เข้าไปมีส่วนร่วมในชุมชนดิจิทัล
เมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา โครงการ Seeds for the Future ได้ขยายการดำเนินการไปแล้วใน 137 ประเทศและภูมิภาค โดยเข้าถึงนักเรียนนักศึกษาจำนวน 12,000 คนจากมหาวิทยาลัยมากกว่า 500 แห่ง และยังสร้างคุณประโยชน์ให้แก่นักเรียนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศไทยถึง 215 คน

ไม่มีความคิดเห็น