Breaking News

คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดตัวเทศกาลรับลมหนาว“Thailand Winter Festivals” สร้างปรากฏการณ์เฟสติวัลทั่วประเทศส่งท้ายปี 2566

 “เศรษฐา” นำทีมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดตัวคิกออฟ เฟสติวัลใหญ่ประจำปี Thailand Winter Festival และ Colorful Bangkok Winter Festival 2023 รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงพักผ่อนปลายปี ด้าน “แพทองธาร”ประกาศเสริมความยิ่งใหญ่ ไทยจัดงานกว่า3,000งานทั้งงานประเพณีไทยดั้งเดิม-ลอยกระทงเทศกาสากล-เค้าท์ดาวน์ปีใหม่ตลอดจนงานต่างๆ ที่แสดงออกลักษณะทางศิลปะ อาหาร ดนตรี กีฬา และงานแสงสี หวังผลักดันไทยเป็นHubของเฟสติวัลโลก

วันนี้ (10 พฤศจิกายน 2566) ณ ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล:นายเศรษฐาทวีสินนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเป็นประธานเปิดตัวงานใหญ่งานแรกภายใต้สาขาเฟสติวัล1ใน11สาขาเป้าหมายในยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ภายใต้ชื่องาน เทศกาลThailandWinter Festivals โดยมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเข้าร่วมงาน โดยงานเทศกาลThailandWinter Festivalsนี้เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะประกาศความพร้อมและแสดงศักยภาพการเป็นฮับแห่งเฟสติวัลโลก ภายในงานประกอบไปด้วยเทศกาลสำคัญ2เทศกาลได้แก่Thailand WinterFestivalและColorful Bangkok Winter Festival 2023 ที่ได้รวมงานกว่า 3,000 งาน และอีก 200 งานในกรุงเทพฯที่จะทยอยจัดขึ้นภายใน2เดือนของปีนี้ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 

นายเศรษฐากล่าวว่า“งาน ThailandWinterFestivalsเป็นผลจากการทำงานแบบบูรณาการอย่างแท้จริงโดยรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายว่าประเทศไทยจะต้องเป็นผู้นำในด้านเฟสติวัลของโลกคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติได้เริ่มผลักดันแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรค วางรากฐานการเติบโตของอุตสาหกรรม รวมไปถึงสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงองค์ความรู้ให้ประเทศไทยพร้อมสำหรับการเป็น Festival Country ในอนาคต เพราะไทยยังมีศักยภาพในการท่องเที่ยวอีกมากกอปรกับรัฐบาลยังมีนโยบายหลายมิติ ที่จะสนับสนุนทั้งการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามบินที่กำลังจะเกิดขึ้นที่อันดามันและนโยบายเรื่องวีซ่าฟรีที่กำลังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลได้เริ่มต้นการผลักดันอย่างจริงจัง” 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ชอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวเพิ่มว่า “3,000 กว่าเทศกาลนี้ที่จัดขึ้นมี2ช่วงเวลาสำคัญคือ(1)ประเพณีไทยดั้งเดิมที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือประเพณีลอยกระทงในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จัดขึ้นทั่วทั้งประเทศไทย งานใหญ่ประจำปีจะอยู่ที่สุโขทัยประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ และ(2) ช่วงสิ้นปีที่ยาวตั้งแต่คริสต์มาสต์ไปถึงปีใหม่เทศกาลสากลที่มีการจัดกันอยู่ทุกปี โดยในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีงานกิจกรรมอีกหลายมิติครอบคลุมทั้งประเพณีศิลปะ อาหาร กิจกรรมเพื่อความบันเทิงดนตรีกีฬา เทศกาลประจำปีที่มีบรรยากาศสนุกสนาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้ประเทศไทยถูกจดจำในฐานะจุดหมายใหม่ปลายปีของโลก” 

นางสาวสุดาวรรณหวังศุภกิจโกศลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า“Thailand WinterFestival”ถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ท่องเที่ยวไทยครั้งยิ่งใหญ่ที่มีนัยสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลสำหรับช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2566 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีการเดินทางของนักท่องเที่ยวมากที่สุดและเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเพิ่มแรงส่งทางการท่องเที่ยวด้วยBigEvent กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยททท.จึงได้เสนอ5 กิจกรรมสำคัญเริ่มต้นด้วยกิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทง ปี 2566 นำเสนอประเพณีลอยกระทงอันทรงคุณค่าเน้นย้ำความสุขอย่าง“วิถีไทย”ต่อด้วยAmazingThailand Marathon Bangkok 2023 ตอกย้ำความพร้อมของกรุงเทพฯ ประเทศไทยก้าวสู่ Sport Tourism Destination ระดับโลกและกิจกรรมAmazing Thailand Passport Privileges มอบสิทธิประโยชน์การใช้จ่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆท่านรอคอยกับVijitChao Phraya 2023 แต่งแต้มสีสันแนวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนตลอดทั้งเดือนธันวาคม 2566 ใน 6 พื้นที่การแสดงที่แสดงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมจากแนวของสายน้ำที่คดโค้งสู่แลนด์มาร์กของประเทศไทย และส่งท้ายปีแบบยิ่งใหญ่ด้วยกิจกรรม AmazingThailand Countdown 2024 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นGlobal Countdown Destination ยอดนิยมในใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก”

นายเสริมศักดิ์พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า“กระทรวงวัฒนธรรมขอส่งความสุขในช่วงฤดูหนาวและขอมอบของขวัญพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่จะเดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศไทยมาชมประเพณีวัฒนธรรมไทยอันสวยงามร่วมสร้างสีสันแห่งความสุขและความทรงจำดี ๆ ให้แก่ชีวิต ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกิจกรรมส่งความสุขผ่านประเพณีวัฒนธรรมไทยและกิจกรรมเสริมสิริมงคล อาทิ เยี่ยมยล ชมวัง สักการะศาสนสถาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พระพุทธสิหิงค์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์,แต่งชุดไทยไปลอยกระทง,ท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night Heritage) อาทิ วัดไชยวัฒนารามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย,งานเทศกาลโคมแสนดวง ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน, ไปดูงานศิลป์ในงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยนานาชาติThailand Biennale, Chiang Rai 2023  จังหวัดเชียงราย จากศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลก,งานสวดมนต์ข้ามปีเสริมสิริมงคลรวมไปถึงร่วมเล่นน้ำใน “ประเพณีสงกรานต์”นอกจากนี้อยากเชิญชวนเดินทางท่องเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรม เช่น งาน “76 จังหวัด 76 เทศกาลประเพณี” แหล่งท่องเที่ยว “ชุมชน ยลวิถี” แหล่งท่องเที่ยว “ตลาดบกตลาดน้ำ”เส้นทางท่องเที่ยวแห่งศรัทธาตามรอยพระเถราจารย์และตำนานความเชื่อพญานาคลุ่มน้ำโขง เป็นต้น หวังว่าการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งจัดงาน Thailand Winter Festivals ในครั้งนี้ จะทำให้คนไทยมีรอยยิ้ม และมีความสุขในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทำให้ประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจากนักท่องเที่ยวที่มาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ สอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนวัฒนธรรมโทร 1765”

นายชัชชาติสิทธิพันธุ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า “งานฤดูกาลศิลปะกรุงเทพ2566 Colorful Bangkok 2023 จัดขึ้นเป็นปีที่2เพื่อเติมสีสันให้กับเมืองตลอด3 เดือน(พ.ย.66-ม.ค.67)ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สร้างบรรยากาศของความสุขและการเฉลิมฉลองสร้างสรรค์งานเทศกาลศิลปวัฒนธรรม โดยไฮไลต์สำคัญอาทิ งานลอยกระทง มากกว่า 60 จุดทั่วกรุงเทพฯ, งานแสดงแสงสีเสียงVijit ChaoPhraya, เทศกาลงานดิจิทัลอาร์ตAwakening Bangkok, งานวิ่งมาราธอน Amazing Marathon Bangkok,เทศกาลประจำปีละครกรุงเทพ,เทศกาลศิลปะวัฒนธรรมชุมชนบางกอกบานฉ่ำและเทศกาลเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืนประจำปี NightattheMuseumงาน Countdown 2024 ก้าวสู่ปีใหม่ ตลอดจนจะจัดงานใหญ่ปิดท้ายเทศกาลเพื่อรวมพลคนศิลปะในงาน Colorful Bangkok Expo 2024 ในวันที่ 18-21 มกราคม 2567 ที่ลานคนเมืองอีกด้วย“



นอกจากนี้ภายในงานแถลงข่าววันนี้ยังมีการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ “ลมหนาว”เพื่อสร้างบรรยากาศให้กับงานและเทศกาลฤดูหนาวและการแสดงจากกระทรวงวัฒนธรรมในการแสดงชุดร่วมสมัย4 ภาค จากภาคเหนือ (รำร่ม) ภาคอีสาน (ผีตาโขน) ภาคใต้ (มโนราห์) และภาคกลาง (โขน) และการจัดนิทรรศการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมภายในงานอีกด้









ไม่มีความคิดเห็น