Breaking News

คาร์กิลล์ จับมือ วีพีเอฟ ยกระดับมาตรฐานการผลิตอาหารสัตว์มุ่งพัฒนาเนื้อหมูคุณภาพสูงสู่ผู้บริโภคไทย

คาร์กิลล์ บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านอาหารและเกษตรกรรม จับมือ วีพีเอฟ ยกระดับมาตรฐานการผลิตอาหารสัตว์ นำโดย คุณอัครฤทธิ์ บุญทวี กรรมการบริษัท คาร์กิลล์สยาม จํากัดคุณมาโนชญ์ เพ็ญนารา ผู้บริหารฝ่ายพาณิชย์ บริษัท คาร์กิลล์สยาม จํากัด คุณวรพงศ์ จีรประภาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด และ คุณยุทธพงศ์ จีรประภาพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด

กรุงเทพฯ (11 มีนาคม 2567) – คาร์กิลล์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์ชั้นนำระดับโลก และวีพีเอฟ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเนื้อสุกรคุณภาพ ประกาศความร่วมมือภายใต้การลงนามข้อตกลงความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการผลิตอาหารสุกรด้วยเทคโนโลยีการผลิตอาหารสัตว์ระดับโลกของคาร์กิลล์เพื่อส่งมอบอาหารสุกรคุณภาพให้กับวีพีเอฟ จังหวัดเชียงใหม่ ในขณะที่วีพีเอฟจะดูแลตลอดห่วงโซ่คุณค่าของการผลิตเนื้อสุกรเพื่อส่งมอบเนื้อสุกรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโภชนาการอาหารและปลอดภัยให้กับผู้บริโภคชาวไทยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันในด้านการยกระดับมาตรฐานโภชนาการอาหารสัตว์อย่างยั่งยืนตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดส่งผลให้สัตว์เติบโตอย่างมีคุณภาพและมีสุขภาพที่ดี ซึ่งจะช่วยให้วีพีเอฟสามารถพัฒนาภาพรวมของผลผลิต เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงเนื้อสุกรที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัยสำหรับการบริโภค ในขณะเดียวกัน คาร์กิลล์ก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์เพื่อส่งให้กับภาคเหนือของประเทศไทย และส่งมอบอาหารสุกรคุณภาพสูงให้กับวีพีเอฟ

(ซ้ายไปขวา) คุณวนิชญ์ชญาญ์ จีรประภาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักการตลาดและขาย บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) คุณยุทธพงศ์ จีรประภาพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด คุณวัชรารัศมิ์ จีรประภาพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) Ms. Lisa Buzenas กงสุลใหญ่ ประจำสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่

คุณอัครฤทธิ์ บุญทวี กรรมการบริษัท คาร์กิลล์สยาม จํากัด คุณวรพงศ์ จีรประภาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัดและ คุณมาโนชญ์ เพ็ญนารา ผู้บริหารฝ่ายพาณิชย์ บริษัท คาร์กิลล์สยาม จํากัดปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการบริโภคเนื้อหมูไทยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.91 ต่อปี1 โดยเฉพาะผู้บริโภคในเขตภาคเหนือที่มีการบริโภคเนื้อสุกรมากเป็นลำดับที่ 2 ของประเทศรองจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็น 18% ของจำนวนการบริโภคทั้งหมด หรือกว่า 200 ล้านกิโลกรัมต่อปี2 ทั้งนี้เพื่อที่จะส่งเสริมคุณภาพและความปลอดภัยในการบริโภคเนื้อสุกร จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง วีพีเอฟ และ คาร์กิลล์ตลอดระยะเวลากว่า 42 ปีที่คาร์กิลล์ ประเทศไทย ยังคงเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์ชั้นนำ ความร่วมมือในครั้งนี้ คาร์กิลล์ นำเทคโนโลยีกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐานระดับโลกของคาร์กิลล์ มาใช้ในการผลิตอาหารสุกรให้กับวีพีเอฟ คาร์กิลล์มีการพัฒนาสูตรอาหารที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของสุกรในแต่ละช่วงวัยเพื่อให้สุกรได้รับโภชนาการอาหารและทำให้เนื้อสุกรมีคุณภาพ นอกจากนั้น คาร์กิลล์ ยังเน้นในการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด มีทีมผู้เชี่ยวชาญจากคาร์กิลล์ช่วยแนะนำและควบคุมคุณภาพตลอดกระบวนการผลิต ก่อนส่งมอบสินค้าอาหารสัตว์แก่ วีพีเอฟ สำหรับการเลี้ยงดูสุกรภายใต้ระบบการรักษาสุขอนามัยที่ดี เพื่อให้สุกรเติบโตอย่างสมบูรณ์และปลอดภัย ส่งผลให้เนื้อสุกรมีคุณภาพสูงเหมาะแก่การบริโภค

นายอัครฤทธิ์ บุญทวี กรรมการบริษัท คาร์กิลล์สยาม จำกัด กล่าวว่า “คาร์กิลล์มุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและความสามารถของเราในการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้และประสบการณ์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงสุดผ่านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ปรับแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เพียงช่วยส่งเสริมการเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีและแข็งแรง แต่ในขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยส่งเสริมการจัดหาเนื้อสุกรคุณภาพสูงซึ่งเป็นแหล่งพลังงานอาหารหลักให้กับประชากรไทยท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทายอย่างต่อเนื่อง”

                                   นายอัครฤทธิ์ บุญทวี กรรมการบริษัท คาร์กิลล์สยาม จำกัด
นายวรพงศ์ จีรประภาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด กล่าวว่า “ในการร่วมมือกันระหว่าง VPF กับ Cargill ในครั้งนี้เกิดจากวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องกันในด้านคุณภาพและมาตรฐานในทุกกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้อาหารที่ปลอดภัย VPF ยึดถือเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญมาโดยตลอด ได้มีการพัฒนาห่วงโซ่การผลิต เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ดูแลและใส่ใจกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีสำหรับการผลิตอาหารให้กับสุกรในฟาร์มของเราเองไปจนถึงกระบวนการชำแหละตัดแต่งเนื้อสุกร การปฏิบัติงาน เพื่อให้ได้คุณค่าที่เหนือกว่ามาตรฐานและพร้อมส่งต่อให้กับผู้บริโภค ตามแนวคิดที่ว่า “Value Beyond Standard” คุณค่าเหนือมาตรฐาน”
คาร์กิลล์พร้อมเดินหน้าร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อยกระดับมาตรฐานเนื้อสุกรไทยให้มีคุณภาพและปลอดภัย พร้อมส่งมอบให้กับผู้บริโภคชาวไทย คาร์กิลล์ และ วีพีเอฟ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร พร้อมก้าวสู่การทำธุรกิจสีเขียวผ่านการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทั่วโลก สัตว์ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
###
แหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม
1สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ: สถานการณ์สินค้าสุกร และแนวโน้ม ปี 2567
2รายงานสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2566
เกี่ยวกับคาร์กิลล์
คาร์กิลล์มุ่งมั่นที่จะจัดหาอาหาร วัตถุดิบ โซลูชั่นทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเพื่อหล่อเลี้ยงโลกด้วยวิธีการที่ปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และยั่งยืน เราได้ร่วมมือกับเกษตรกรและลูกค้าซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของห่วงโซ่อุปทาน ในการจัดหา ผลิต และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต
สมาชิกในทีมกว่า 160,000 ชีวิต ร่วมด้วยสมาชิกกว่า 16,000 คนในประเทศไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างมีเป้าหมาย โดยจัดหาสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโต ชุมชนเจริญรุ่งเรือง และผู้บริโภคมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และด้วยประสบการณ์ 159 ปี ในฐานะบริษัทครอบครัว เรามองไปที่อนาคตขณะที่ยังคงยึดมั่นในค่านิยมของเรา เราให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก มุ่งสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งขึ้น เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่กำลังจะมาถึง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ Cargill.com และศูนย์ข่าวสารของเรา
เกี่ยวกับ บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด
ฟาร์มสุกรครบวงจรบนพื้นที่กว่า 1000 ไร่ วีพีเอฟผลิตและจัดจำหน่ายเนื้อสุกรคุณภาพควบคุมมาตรฐานตลอดกระบวนการผลิตอาหารการเลี้ยงขุนและชำแหละ โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ได้มาตรฐานในระดับสากล เพราะเราดูแลใส่ใจทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิต ทำให้ผลิตภัณฑ์ของวีพีเอฟมีคุณค่าเหนือมาตรฐานสามารถส่งต่อหมูคุณภาพสู่มือลูกค้าได้

ไม่มีความคิดเห็น